ปัญจสุทธาวาส

ภิกษุเมื่อจิตตั้งมั่น บริสุทธิ์ ผุดผ่อง ไม่มีกิเลส ปราศจากอุปกิเลส เป็นจิตอ่อน ควรแก่การงาน มั่นคง ถึงความไม่หวั่นไหว ย่อมน้อมจิตไปเพื่อแสดงฤทธิ์ เธอย่อมแสดงฤทธิ์ได้หลายอย่าง ย่อมสามารถลูบคลำพระจันทร์พระอาทิตย์ซึ่งมีฤทธิ์มีอานุภาพมาก ใช้อำนาจทางกายไปตลอดพรหมโลกก็ได้ เปรียบเหมือนช่างหม้อหรือลูกมือของช่างหม้อผู้ฉลาด เมื่อนวดดินดีแล้ว ต้องการภาชนะชนิดใด ก็ทำภาชนะชนิดนั้นให้สำเร็จได้

แสงแห่งการตรัสรู้ธรรมนำสันติสุขมาสู่ใจชาวโลก วิสาขบูชาที่อินเดีย

พิธีจุดประทีปโคมลอยวิสาขบูชา เฉลิมฉลองพุทธชยันตีเพื่อสันติภาพโลก จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 3 ในวันที่ 6 พ.ค. พ.ศ. 2555 ณ ลานซาเกต เมืองทาเน่ ประเทศอินเดีย

Change The World In เบลเยี่ยม ตอนที่ 3

งานปิดทองฝังลูกนิมิตผูกพัทธสีมา อุโบสถวัดพระธรรมกายเบเนลักซ์ ประเทศเบลเยี่ยม

การบวชเป็นพระถือว่าเป็นการทดแทนบุญคุณพ่อแม่อย่างไร

คนไทยเชื่อว่าบวชพระลูกชาย เป็นการทดแทนบุญคุณพ่อแม่ แต่จะทดแทนบุญคุณพ่อแม่ได้อย่างไร ในเมื่อก็รู้ๆ อยู่ว่าบวชแล้ว ก็ไปบิณฑบาต ไปทำความดีตามลำพัง ทิ้งพ่อทิ้งแม่ทิ้งครอบครัว

กรรมของผู้ไม่เชื่อเรื่องบุญเรื่องบาป

บุคคลทำกรรมใดแล้ว ย่อมเดือดร้อนในภายหลัง เป็นผู้มีหน้าชุ่มด้วยน้ำตา ร้องไห้เสวยผลของกรรมใดอยู่ กรรมนั้นอันบุคคลกระทำแล้วไม่ดีเลย

บุพกรรมของพระพุทธเจ้าตอนที่ ๑

บุคคลที่ทำกรรมชั่วไว้ ถึงจะหนีไปทางอากาศ ก็พ้นจากกรรมชั่วไปไม่ได้ หนีไปในท่ามกลางมหาสมุทร ก็พ้นจากกรรมชั่วไปไม่ได้ หนีเข้าไปในซอกเขาก็ไม่พ้นจากกรรมชั่วไปได้ บุคคลอยู่ในส่วนแห่งภาคพื้นใดพึงพ้นจากบาปกรรม ส่วนแห่งภาคพื้นนั้น ย่อมไม่มี

โทษของการเห็นผิด

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราไม่พิจารณาเห็นธรรมสักอย่างหนึ่ง ที่มีโทษมากเหมือนอย่างมิจฉาทิฎฐิเลย ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย โทษทั้งหลายมีมิจฉาทิฎฐิเป็นอย่างยิ่ง

ทุ สะ นะ โส

บุคคลหว่านพืชเช่นไร ย่อมได้ผลเช่นนั้น ผู้ทำกรรมดี ย่อมได้รับผลดี ผู้ทำกรรมชั่ว ย่อมได้รับผลชั่ว

อานิสงส์สรรเสริญพระพุทธเจ้า

เทวลดาบสได้ประกาศถึงพระคุณอันหาประมาณมิได้ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า “พระองค์เป็นผู้เลิศที่สุดในโลก พระพุทธเจ้าทั้งหลายผู้มีพระจักษุ มียศใหญ่ ท่านทั้งหลายได้พบแล้วในบทมนต์ของเรามิใช่หรือ เรานมัสการพระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐสุด มียศใหญ่เหล่านั้น”

อานิสงส์ทำจิตเลื่อมใสในพระญาณ

เราได้ยังจิตให้เลื่อมใสในพระญาณ ประณมอัญชลี มีจิตเลื่อมใส มีใจโสมนัส ถวายบังคมพระพุทธเจ้าพระนามว่า สิทธัตถะ ด้วยอานุภาพแห่งบุญที่ได้กระทำในครั้งนั้น ในกัปที่ ๙๔ แต่กัปนี้ เราได้เสวยทิพยสมบัติมากมายหลายภพหลายชาติ เราไม่เคยไปสู่ทุคติเลย