นางจุฬารัตน์ บุณยากร ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เปิดเผยว่า ในการประชุมเชิงปฏิบัติการคณะกรรมการการเผยแผ่พระพุทธศาสนา และส่งเสริมการดำเนินงานหน่วยอบรมประชาชนประจำตำบล ที่วัดไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม ตามระเบียบมหาเถรสมาคมว่าด้วยการเผยแผ่พระพุทธศาสนา พ.ศ.2550 กำหนดให้มีศูนย์การเผยแผ่พระพุทธศาสนา ประจำจังหวัด เพื่อดำเนินการเผยแผ่พระพุทธศาสนาตามจังหวัดต่างๆ ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งขณะนี้ได้ดำเนินการจัดตั้งครบทุกจังหวัดแล้ว จึงจำเป็นที่จะต้องมีการประชุมร่วมกันเพื่อกำหนดทิศทางในการดำเนินงานให้สอด คล้องกับของทางคณะสงฆ์และภาครัฐ และที่สำคัญการตั้งศูนย์เผยแผ่พระพุทธศาสนาประจำจังหวัดเพื่อต้องการให้ช่วย พระสงฆ์ในการเผยแผ่พระพุทธศาสนา ไม่ใช่ให้พระสงฆ์ทำงานฝ่ายเดียว พระพรหมโมลี กรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) ในฐานะประธานคณะกรรมการเผยแผ่พระพุทธศาสนาแห่งชาติ กล่าวว่า มหาเถรสมาคมมีนโยบายหลักๆ ในการส่งเสริมการเผยแผ่พระพุทธศาสนา คือ การส่งเสริมการศึกษาพระปริยัติธรรมในแผนกธรรม-บาลี รวมทั้งให้การช่วยเหลือผู้ที่ขาดโอกาสทางการศึกษาทางโลกมาเข้าศึกษาใน โรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา อย่างไรก็ตาม มส.ก็ยังคงมีความเป็นห่วงเรื่องการถูกคุกคามของพระพุทธศาสนาอยู่ และเห็นว่าการให้การศึกษาสงเคราะห์จะสามารถช่วยเสริมความมั่นคงให้กับพระ พุทธศาสนาได้ จึงต้องการเน้นให้พระสงฆ์ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ ซึ่งจะเห็นได้จากที่จะไม่มีการพิจารณาเลื่อนสมณศักดิ์ให้กับพระสงฆ์ที่ไม่มี การสนับสนุนเรื่องการศึกษา นอกจากนี้ คณะกรรมการเผยแผ่พระพุทธศาสนาฯ ยังได้รับการสนับสนุนจากกองทุนเล่าเรียนหลวงสำหรับพระสงฆ์ไทยในการสนับสนุน งบประมาณให้ทุนอบรมพระวิปัสสนาจารย์จำนวน 3,000 รูป ในระยะเวลา 5 ปี ซึ่งจะแบ่งการอบรมปีละ 600 รูป โดยขณะนี้ในคณะสงฆ์หนกลางได้เริ่มดำเนินการอบรมแล้ว ทั้งนี้ การสนับสนุนดังกล่าวเนื่องจากทางกองทุนเล่าเรียนหลวงฯ เห็นว่าขณะนี้พุทธศาสนิกชนให้ความสนใจปฏิบัติธรรมมากขึ้น แต่จำนวนพระวิปัสสนาจารย์ยังไม่เพียงพอ จึงให้งบฯ สนับสนุนแก่คณะกรรมการเผยแผ่พระพุทธศาสนาฯ และหลังจากดำเนินการอบรมเสร็จแล้วจะส่งพระที่ผ่านการอบรมไปประจำสำนัก ปฏิบัติธรรมทั่วประเทศแห่งละ 3 รูป |
ที่มา-น.ส.พ.มติชนออนไลน์