สุวรรณภูมิเฮี้ยน ผีเจ้าที่ขอศาล

เรื่องราวเร้นลับเหลือเชื่อ ที่เกิดขึ้นระหว่างพิธีทำบุญเพื่อเป็นสิริมงคล ก่อนมีพิธีเปิดสนามบินสุวรรณภูมิอย่างเป็นทางการ สร้างความตื่นตะลึงแปลกประหลาดใจให้แก่ผู้พบเห็นและร่วมอยู่ในเหตุการณ์ เป็นที่เปิดเผยขึ้นหลังจากที่บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ได้นิมนต์พระ 99 รูป สวดพระปริตรและสวดกัมมวาจา 8 ทิศ คือทิศตะวันออก บริเวณอาคารเอเอ็มเอฟ ทิศตะวันออกเฉียงใต้ บริเวณสถานีกรมอุตุนิยมวิทยา ทิศใต้ บริเวณรันเวย์ตะวันออกและสถานีดับเพลิง ทิศตะวันตกเฉียงใต้ บริเวณทางต่างระดับถนนกิ่งแก้ว ทิศตะวันตก บริเวณรอบเขื่อน และทิศตะวันตกเฉียงเหนือ บริเวณรอบเขื่อนด้านบน ทิศเหนือ บริเวณสถานีไฟฟ้าย่อยและทิศตะวันออกเฉียงเหนือ บริเวณบัสเทอร์มินอล เมื่อเวลา 07.30 น.  (23 ก.ย.) รวมถึงเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับดวงวิญญาณของเจ้าที่เจ้าทางต่างๆ ที่อยู่รอบบริเวณสนามบินฯ เนื่องจากความเชื่อที่มีมากันแต่โบร่ำโบราณว่า ในช่วงที่มีการก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิอาจมีบุคคลเข้ามาล่วงเกินและทำสิ่งไม่ดีเกิดขึ้น

ภายในสนามบินฯได้ โดยมีผู้มาร่วมงานกว่า 350 คน นอกจากนี้ ยังเป็นการเสริมสิริมงคลให้แก่สนามบินฯ ปัดเป่าสิ่งไม่ดีและให้แคล้วคลาดจากภยันอันตราย โดย ทอท.หวังว่าการเปิดสนามบินในวันที่ 28 ก.ย.นี้ จะเป็นไปด้วยดีไม่มีปัญหาอุปสรรคใดๆ มาขัดขวาง หรือเป็นเหตุให้เกิดสะดุด หรือหยุดชะงัก โดยพระสงฆ์ที่นิมนต์มาสวดมนต์มาจากวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ วัดอรุณราชวราราม และวัดราชวรมหาวิหาร


ในระหว่างที่พระสงฆ์กำลังสวดพระพุทธมนต์ โดยมีผู้ร่วมงานนั่งพนมมือฟังพระสวดกันเป็นจำนวนมาก ได้เกิดเหตุการณ์เร้นลับและไม่คาดฝันเกิดขึ้น โดยนายขวัญชัย ทับโต พนักงานตรวจค้นวัตถุระเบิดของบริษัท ล็อกซเล่ย์ ที่ได้รับสัมปทานงานตรวจค้นวัตถุระเบิดในสนามบินสุวรรณภูมิ เกิดอาการตัวสั่นเหมือนผีเข้าในช่วงที่ก้มลงกราบพระ ใบหน้าบิดเบี้ยวพร้อมกับร้องห่ม ร้องไห้ จากนั้นก็นั่งหลังงองุ้มเหมือนคนแก่ พร้อมกับพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงสั่นๆ ว่าเป็น “พ่อปู่ชื่อมิ่ง” และบอกว่า ไม่เคยมีใครสนใจตนเลย ตั้งแต่เข้ามาอยู่ที่สนามบินสุวรรณภูมิและขอให้ตั้งศาลเพียงตาให้เพราะไม่มีที่อยู่ จะตั้งตรงจุดใดก็ได้ นอกจากนี้ ยังได้ขอหมากพลูจากผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ด้วย และยื่นคำขาดว่าถ้าไม่ตั้งศาลให้ จะทำให้เกิดเรื่องวุ่นวายปั่นป่วนมากกว่านี้


อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่นายขวัญชัยมีอาการผิดปกติคล้ายผีเข้านั้น พระรูปหนึ่งที่ทำพิธีสวดมนต์อยู่ ได้มาพูดคุยกับนายขวัญชัย ซึ่งนายขวัญชัยก็ได้พูดตอบด้วยน้ำเสียงที่ผิดปกติ โดยยืนยันว่าไม่ได้ตั้งใจมาลบหลู่ แต่อยากมาดูพิธีว่าทำอะไรกันบ้าง และหลังจากที่พระรูปนั้นรับปากว่าจะให้เจ้าหน้าที่ตั้งศาล ถวายสิ่งของและอุทิศ ส่วนกุศลให้กับพ่อปู่มิ่ง ชายคนดังกล่าวก็เป็นลมหมดสติล้มลงในลักษณะคอพับคออ่อนทันที หลังจากนั้นไม่นานก็มีสภาพกลับมาเป็นปกติเหมือนเดิม แต่มีอาการที่อ่อนเพลีย เนื่องจากพ่อปู่มิ่งได้เข้าสิงร่างนายขวัญชัยถึง 3 ครั้ง


ด้านนายโชติศักดิ์ อาสภวิริยะ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่บริษัท ทอท. กล่าวว่า ไม่อยากเชื่อในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แสดงให้เห็นว่าสถานที่แห่งนี้ไม่ธรรมดาและทำให้ เห็นชัดเจนว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริง ถ้าใครไม่เห็นกับตา  ไม่อยากเชื่อ เพราะนายขวัญชัยดูลักษณะท่าทางเป็นคนที่เรียบร้อย แต่พอเกิดเหตุการณ์ขึ้นได้กลายเป็นคนละคน น้ำเสียงเปลี่ยนไปคล้ายคนแก่ ดวงตาก็เหลือกกลับขึ้นข้างบนจนแทบไม่เห็นตาดำ ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์เห็นกันหมด สภาพนายขวัญชัยตัวงอหงิกร้องห่มร้องไห้ พอพระเข้ามาสวดแผ่เมตตาและเอามือลูบศีรษะนายขวัญชัย ขณะที่นายขวัญชัยเข้าไปที่อาสนะพระ ตัวนายขวัญชัยกลับสงบนิ่งและก้มลงกราบ อ้างตัวเองว่าชื่อพ่อปู่มิ่ง บอกว่าอยู่ที่นี่มานานแล้วทำไมถึงมาไล่เขาไป และได้ขอให้ตั้งศาลเพื่อมีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ถ้าไม่ทำจะอาละวาด หลวงพ่อที่มาสวดพระพุทธมนต์ได้บอกให้เจ้าหน้าที่ช่วยจัดตั้งศาล