ที่ระลึก - ลูกค้า ของสตาร์บัคส์ ถ่ายรูปหน้าร้านสตาร์บัคส์ สาขาไพค์ เพลซ ในซีแอตเติล วอชิงตัน ซึ่งเป็นสาขาเรือธงของสตาร์บัคส์ หลังจากสตาร์บัคส์ประกาศว่าจะปิด 600 สาขาทั่วสหรัฐที่ไม่ทำเงิน โดยในจำนวนนี้สาขาในวอชิงตันอยู่ในข่ายที่จะต้องถูกปิดด้วย

เอเอฟพีรายงานว่า ตามที่สตาร์บัคส์ ร้านกาแฟชื่อดังของสหรัฐอเมริกา ประกาศแผนจะปิดสาขา 600 แห่ง ในสหรัฐอเมริกาที่ไม่ทำเงินอันเนื่องมาจากปัญหาเศรษฐกิจ แต่ยังไม่มีการเปิดเผยว่า จะเป็นสาขาใดบ้างนั้น บรรดาชาวอเมริกันผู้เป็นลูกค้าของสตาร์บัคส์หลากสาขาอาชีพทั้งนักข่าว ผู้ผลิตรายการทีวี นักดนตรี และคนทั่วไป ต่างคาดหวังว่าร้านสตาร์บัคส์ในย่านที่ทำงานหรือที่อยู่อาศัยของตนจะไม่ถูก ปิด และหลายคนก็ไม่อยากให้ปิด อาทิ สาขาใกล้กับทำเนียบขาวในวอชิงตัน

อย่างไรก็ตาม ลูกค้าบางคน อาทิ นางเด็บบี้ การ์เดียน ชาวซานฟรานซิสโก กล่าวว่า เห็นว่าการปิดร้านอาจเป็นหนทางในการช่วยรักษาชื่อเสียงของสตาร์บัคส์ในฐานะ ธุรกิจที่มีความซื่อสัตย์ เพราะที่ผ่านมาสตาร์บัคส์ทำให้ตัวเองราคาถูกลงด้วยการเลียนแบบ แมคโดนัลด์ด้วยการเปิดร้านมากเกินไปในบริเวณเดียวกัน

"ที่เป็นอยู่นี้ไม่ใช่สตาร์บัคส์แล้ว ฉันคิดถึงร้านกาแฟสตาร์บัคส์ในแบบเดิมในยุคแรกที่ให้ความรู้สึกเหมือนร้านกาแฟข้างบ้าน ที่โต๊ะทำด้วยไม้ล้วนๆ บรรยากาศขรึมๆ" นางการ์เดียนกล่าว

รายงานข่าวเปิดเผยว่า นับจาก ค.ศ.1995 เป็นต้นมา สตาร์บัคส์เปิดสาขาอย่างมากและรวดเร็ว จาก 677 สาขา เป็น 16,000 สาขา ในปีที่แล้ว แต่ในเมื่อสตาร์บัคส์มีราคาถึงแก้วละ 3.69 ดอลลาร์ ในขณะที่เศรษฐกิจย่ำแย่และน้ำมันราคาสูง 4.08 ดอลลาร์ต่อแกลลอน (4.5 ลิตร) คนอเมริกันก็เลือกจะเก็บเงินไว้เติมน้ำมัน โดย 28% ของผู้ขับรถเลิกไปสตาร์บัคส์หรือไปเข้าร้านกาแฟอื่นแทน อีก 21% ไปสตาร์บัคส์ด้วยความถี่ที่น้อยลง
 
 
 
 
ที่ม่า- 
 
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

บทความที่เกี่ยวข้อง