นายอำนาจ
บัวศิริ ผอ.กองพุทธศาสนศึกษา สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.)
เปิดเผยว่า จากการที่นายวรเดช อมรวรพิพัฒน์
รองประธานคณะกรรมาธิการการศาสนา จริยธรรม ศิลปะและวัฒนธรรม
สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ได้ทำหนังสือถึง พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์
นายกรัฐมนตรี
เพื่อขอให้สนับสนุนการดำเนินงานของมหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนาแห่งโลก
(ม.พ.ล.) ทางนายกฯ ได้ทำหนังสือส่งมาถึงสำนักพุทธฯ
เพื่อให้ชี้แจงแนวทางในการดำเนินงานของ ม.พ.ล.
ดังนั้นตนเห็นว่าจึงจะเป็นโอกาสที่จะทำให้การดำเนินการของม.พ.ล.ให้เป็นรูปธรรมมากขึ้น
เพราะหลังจากที่ในการประชุมองค์การพุทธศาสนิกสัมพันธ์แห่งโลก(พสล.)
เมื่อปี 2541 สมาชิกจากทั่วโลกได้มีมติให้ประเทศไทยดำเนินการจัดตั้ง
ม.พ.ล. แต่จนถึงขณะนี้เป็นเวลากว่า 8 ปี แล้ว กลับยังไม่มีการดำเนินการใดๆ
ทั้งนี้สำหรับแผนในการดำเนินงาน สำนักพุทธฯ จะเสนอนายกฯ ว่า ม.พ.ล.
จะมีการเปิดสอนหลักสูตรด้านพระพุทธศาสนาโดยตรง
เนื่องจากวิชาการพระพุทธศาสนาเป็นที่ยอมรับทั่วโลก
และเกี่ยวข้องกับทุกสาขาวิชา เพราะจะมีการสอนเรื่องคุณธรรม
จริยธรรมเป็นหลัก โดยจะมีการเปิดคณะวิชาพระปริยัติธรรม
รวมไปถึงคณะบาลีศึกษาด้วย
"เหตุที่ ม.พ.ล. ยังไม่มีการดำเนินการมา 8 ปี นั้น เพราะไม่มีงบประมาณในการดำเนินการ ซึ่งอาจจะเกิดจากรัฐบาลในช่วง 8 ปีที่ผ่านมายังไม่เห็นความสำคัญของพระพุทธศาสนาเท่าที่ควร รวมทั้งยังไม่มีการแสดงบทบาทที่ชัดเจนของ ม.พ.ล. ด้วย เชื่อว่าหากแสดงบทบาทของ ม.พ.ล.ที่ชัดเจน รัฐบาลจะให้การสนับสนุน และยืนยันว่า ทิศทางของ ม.พ.ล. จะไม่ดำเนินงานตามแนวทางของมหาวิทยาลัยสงฆ์ทั้ง 2 แห่ง แน่นอน เพราะมหาวิทยาลัยสงฆ์ทั้ง 2 แห่ง จะมีคณะวิชาที่เกี่ยวข้องกับทางโลกเป็นหลัก แต่ม.พ.ล. จะมีการเรียนการสอนที่เน้นพระพุทธศาสนาเป็นหลัก ให้นักศึกษาอยู่ประจำเพื่อเรียนรู้วิถีความพอเพียง ตามแนวทางของพุทธ" นายอำนาจ กล่าวและว่า ทั้งนี้หากนายกฯ เห็นชอบตามแนวทางที่ตนเสนอ คาดว่าจะสามารถเปิดทำการสอนได้ทันที แต่เบื้องต้นอาจจะต้องเรียนร่วมกับมหาวิทยาลัยสงฆ์ทั้ง 2 แห่งก่อน และใช้สถานที่ที่พุทธมณฑล โดยจะอาศัยกฎหมายตามพ.ร.บ.มหาวิทยาลัยเอกชน รองรับก่อน เพราะจะต้องใช้เวลาในการก่อสร้างอาคารเรียน และออกพ.ร.บ.รองรับ ม.พ.ล. เพื่อให้เป็นนิติบุคคลต่อไป
"เหตุที่ ม.พ.ล. ยังไม่มีการดำเนินการมา 8 ปี นั้น เพราะไม่มีงบประมาณในการดำเนินการ ซึ่งอาจจะเกิดจากรัฐบาลในช่วง 8 ปีที่ผ่านมายังไม่เห็นความสำคัญของพระพุทธศาสนาเท่าที่ควร รวมทั้งยังไม่มีการแสดงบทบาทที่ชัดเจนของ ม.พ.ล. ด้วย เชื่อว่าหากแสดงบทบาทของ ม.พ.ล.ที่ชัดเจน รัฐบาลจะให้การสนับสนุน และยืนยันว่า ทิศทางของ ม.พ.ล. จะไม่ดำเนินงานตามแนวทางของมหาวิทยาลัยสงฆ์ทั้ง 2 แห่ง แน่นอน เพราะมหาวิทยาลัยสงฆ์ทั้ง 2 แห่ง จะมีคณะวิชาที่เกี่ยวข้องกับทางโลกเป็นหลัก แต่ม.พ.ล. จะมีการเรียนการสอนที่เน้นพระพุทธศาสนาเป็นหลัก ให้นักศึกษาอยู่ประจำเพื่อเรียนรู้วิถีความพอเพียง ตามแนวทางของพุทธ" นายอำนาจ กล่าวและว่า ทั้งนี้หากนายกฯ เห็นชอบตามแนวทางที่ตนเสนอ คาดว่าจะสามารถเปิดทำการสอนได้ทันที แต่เบื้องต้นอาจจะต้องเรียนร่วมกับมหาวิทยาลัยสงฆ์ทั้ง 2 แห่งก่อน และใช้สถานที่ที่พุทธมณฑล โดยจะอาศัยกฎหมายตามพ.ร.บ.มหาวิทยาลัยเอกชน รองรับก่อน เพราะจะต้องใช้เวลาในการก่อสร้างอาคารเรียน และออกพ.ร.บ.รองรับ ม.พ.ล. เพื่อให้เป็นนิติบุคคลต่อไป
ที่มา-
