เมื่อถึงคราวที่รัฐบาลญี่ปุ่นอัดงบประมาณส่งเสริมการท่องเที่ยว เพื่อหวังเพิ่มเป้านักท่องเที่ยวทั่วโลกให้ได้ 10 ล้านคน ภายใน ปี 2010 หนึ่งในโครงการรณรงค์หลักของรัฐบาล ก็คือ Yokoso! Japan (โยโกโสะ เจแปน) ที่คราวนี้ได้เชิญผู้แทนบริษัททัวร์และสื่อมวลชนไทยไปสำรวจเส้นทางในภาคกลางของญี่ปุ่น บนเกาะฮอนชู โดยมี “เจทีบี” (JTB : Japan Tourism Bureau) บริษัทนำเที่ยวยักษ์ใหญ่อันดับต้นๆ ของประเทศพาเราเดินทางเมื่อ 4-9 มี.ค. จากสนามบินสุวรรณภูมิตรงสู่ สนามบินชูบุ อินเตอร์เนชั่นแนล แอร์พอร์ต หรือ “เซ็นแทรร์” (Centrair) ในเมืองนาโงย่า จังหวัดไอจิ สนามบินใหม่ล้ำสมัยที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน และเพิ่งเปิดใช้ เมื่อ 2 ปีก่อน นับว่าอากาศช่วงนั้นใกล้พ้นฤดูหนาว เข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ ทำให้ยังมีช่วงที่อากาศแปรปรวนอยู่บ้าง เราจึงยังได้เห็นหิมะตกหลงเหลืออยู่
เมืองนาโงย่า เมืองใหญ่อันดับ 4 ของญี่ปุ่น ซึ่งมีประชากร 2.2 ล้านคน นับเป็นเมืองอุตสาหกรรม อันเป็นต้นกำเนิดรถยนต์ยี่ห้อดัง “โตโยต้า” เมืองนี้มีสัญลักษณ์เป็นปลาโลมาทองคำในตำนาน ใบหน้ามีพลัง น่าเกรงขาม ซึ่งปลานี้อยู่ตระหง่านบนยอดของปราสาทนาโงย่า อันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญที่ผู้มาเยือนต้องแวะไปเยี่ยมชมสักครั้ง
ปราสาทนาโงย่า สร้างขึ้นเพื่อเป็นป้อมปราการจากข้าศึกเมืองอื่น สร้างในสมัยโชกุนโทกุกาว่า เมื่อปี 2155 แต่ปราสาทที่เห็นปัจจุบันได้บูรณะสร้างขึ้นใหม่ หลังจากที่เมืองนาโงย่าถูกไฟไหม้กว่าร้อยละ 25 จากการถูกโจมตีเมื่อสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 และในย่านใจกลางเมือง เรายังได้เยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวทันสมัยที่เพิ่งเปิดเมื่อเดือน ต.ค. ปี 2549 อย่าง “พิพิธภัณฑ์หุ่นยนต์” ที่เด็กก็ชอบใจ ผู้ใหญ่ก็ชอบดู เพราะจัดแสดงวิวัฒนาการหุ่นยนต์ รวมทั้งมีโชว์หุ่นยนต์สุดเก๋ในวันหยุด
การนำสำรวจเส้นทางรอบนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นยังได้จัดให้มีพบปะ ระหว่างผู้แทนบริษัทนำเที่ยวกับผู้ประกอบการสถานที่ท่องเที่ยว รวมทั้งเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นให้ได้แลกเปลี่ยนและติดต่อทางธุรกิจโดยตรง นับเป็นการผลักดันธุรกิจท่องเที่ยวอีกทางหนึ่งที่รัฐบาลญี่ปุ่นพยายามอย่างเต็มที่
วันรุ่งขึ้นคณะเดินทางแต่ละประเทศแยกย้ายกันสำรวจเส้นทางที่กำหนด โดยคณะของไทยมีจุดหมายอยู่ที่ จังหวัดโทยาม่า และ จังหวัดอิชิคาว่า โดยเดินทางจากเมืองนาโงย่า ขึ้นเหนือเข้าจังหวัดกิฟู มุ่งหน้าสู่จังหวัด โทยาม่า แวะเยี่ยมชมหมู่บ้านไอโนะคุระ ในเมืองโกคายาม่า บ้านโบราณสไตล์กัสโช ซึ่งหมายถึง 2 ฝ่ามือที่พนม คล้ายกับลักษณะหลังคาบ้านดังกล่าวที่คนสมัยก่อน ใช้ภูมิปัญญาสร้างขึ้นให้หิมะลาดลงมาได้ง่ายไม่เกาะหลังคาหนา ซึ่ง “ยูเนสโก” ยกให้หมู่บ้านดังกล่าวเป็นมรดกโลก และนับเป็นหนึ่งในมรดกโลกไม่กี่แห่งที่ยังมีผู้คนอาศัยอยู่ และยังได้แวะที่ วัดซุยริวจิ วัดอายุกว่า 360 ปี อันสงบในศาสนาพุทธนิกายเซน ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองทากาโอกะ จังหวัดโทยาม่า เช่นกัน

นับว่าทริปนี้พาชมวิถีชีวิตชาวบ้านในญี่ปุ่นที่น่าประทับใจ ที่ในวันรุ่งขึ้นเราได้เดินท้าลมหนาวจังหวัดอิชิคาว่า ในตลาดอาหารทะเลที่ขึ้นชื่อใน เมืองวาจิม่า ซึ่งเริ่มขายตั้งแต่ ช่วงเช้าจนถึงเที่ยง แม่ค้ายิ้มแย้ม อัธยาศัยดี และยังได้เยี่ยมชมศูนย์แสดง คิริโกะ ซึ่งหมายถึงแท่นสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดใหญ่ในพิธีแห่ศาลเจ้าเพื่อให้ทราบว่าขบวนแห่มาถึงแล้ว อันเป็นพิธีสืบทอดมาช้านาน
นอกจากนี้ เมืองวาจิม่ายังมี เครื่องเคลือบ อันมีชื่อ ที่ใช้กระบวนการผลิตอย่างพิถีพิถันกว่า 120 ขั้นตอนด้วยเวลานานนับปี เดินทางผ่าน ถนนสายชิริฮาม่า นากิสะ ซึ่งไม่ค่อยมีให้เห็นนักที่ถนนยาวกว่า 8 กม. จะถูกตัดเลียบชายหาด เมื่อถึง คานาซาว่า เมืองเอกของจังหวัดอิชิคาว่า อาหารทะเลเมืองนี้ก็ขึ้นชื่อไม่แพ้กัน ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของเมืองนี้ได้แก่ สวนเคนโระคุเอ็น 1 ใน 3 สวนสำคัญของญี่ปุ่น นอกจากสวนใกล้กับกรุงโตเกียวและสวนในเมืองโอคายาม่าในฝั่งตะวันตก สวนแห่งนี้สวยงามมาก และมีทัศนียภาพโดดเด่นแตกต่างไปตามฤดูกาล ซึ่งที่เรามีโอกาสเยี่ยมชมเป็นสวนที่ปกคลุมด้วยหิมะ
อีกทั้งยังได้ผ่านบ้านซามูไร สมัยเอโดะ ที่ปัจจุบันลูกหลานซามูไรก็ยังคงอาศัยในบ้านเหล่านั้นที่ปรับปรุงตามยุคสมัย แต่ก็ยังคงบรรยากาศภายนอกและรั้วที่สร้างขึ้นในอดีตไว้ให้ตามรอยประวัติศาสตร์ได้อย่างดี ที่น่าสนใจเราได้ไปเยี่ยม หมู่บ้านวัฒนธรรมคากา ที่รวบรวมอาชีพแต่ละท้องถิ่นทั่วญี่ปุ่นมาไว้ในที่เดียว มีทั้งการเป่าแก้ว ทำกล่องดนตรี ทำขนมหวาน เครื่องปั้นดินเผา ผ้าปัก เป็นต้น มีการสาธิตกระบวน การผลิต และเปิดให้ นักท่องเที่ยวมีส่วนร่วม รวมทั้งได้ชิมขนมแสนอร่อยอีกด้วย
จากการได้ไปแวะสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ จะสังเกตได้ว่าคนญี่ปุ่นเองนิยมท่องเที่ยวในประเทศ แม้แต่วัยรุ่นเองก็ยังท่องเที่ยวและสนใจในงานฝีมือพื้นเมืองซึ่งคนไทยเราน่าเอาเป็นเยี่ยงอย่าง แต่อุปสรรคการท่องเที่ยวในญี่ปุ่นสำหรับคนไทยก็คงจะเป็นเรื่องค่าใช้จ่ายที่ออกจะสูงสักนิด ส่วนปัญหาด้านการสื่อสารที่ว่าคนญี่ปุ่นไม่ค่อยพูดภาษาอังกฤษนั้น ปัจจุบันรัฐบาลพยายามปรับปรุงบ้างแล้ว นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้ไปสัมผัสมา เรียกได้ว่าญี่ปุ่นผสานความล้ำสมัย ควบคู่กับวัฒนธรรมอันงดงามไว้ได้อย่างลงตัวและน่าประทับใจ.
สุภลัคน์ วุฒิกรีธาชัย |